วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ต้านหวัดด้วยผักและผลไม้

ต้านหวัดด้วยผักและผลไม้



หากคุณเป็นหวัดบ่อย ข้อแนะนำก็คือ ควรมีผักและผลไม้ในมื้ออาหารเป็นประจำ เพราะวิตามินจากธรรมชาติจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมีแรงต้านไวรัสหวัด ดังนั้น Lisa จึงขอแนะนำผักและผลไม้สำหรับผู้ที่เป็นหวัดบ่อย
มะขามป้อม มีวิตามินซีสูงกว่าแอปเปิ้ลถึง 160 เท่า และวิตามินซีในมะขามป้อมยังสามารถคงสภาพอยู่ได้นานถึงจะแห้งแล้วก็ตาม นอกจากนี้ในมะขามป้อมยังมีฟอสฟอรัส แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก แมงกานีส สังกะสี คอปเปอร์ โซเดียม ซีลิเนียม สูงกว่าแอปเปิ้ลหลายเท่า หากกินมะขามป้อมหนึ่งผลก็จะได้รับวิตามินซีเพียงพอในหนึ่งวัน ที่สำคัญก็คือ มันมีฤทธิ์ยับยั้งความเป็นพิษต่อตับ จึงมีฤทธิ์รักษาอาการตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและยังป้องกันการเกิดพิษต่อตับของสารพวกโลหะหนักได้ เรียกว่าเป็นผลไม้ที่มีสารแอนตี้ออกซิเดชั่นสูงโดยเฉพาะการต้านไวรัสหวัด เพราะวิตามินซีจะช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระและกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวทำงานต้านเชื้อโรค
น้ำมะม่วง มีโปรวิตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) สูงซึ่งวิตามินเอจะช่วยให้ผิวและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมีสุขภาพดี มีบทบาทสำคัญสำหรับภูมิคุ้มกัน ในการต้านเชื้อโรคต่างๆ และช่วยต้านไวรัสหวัด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะวิตามินเอสำคัญสำหรับการมองเห็น
พริกหวาน มีโปรวิตามินเอ วิตามินบี 6 และวิตามินซี พริกหวานเพียงครึ่งลูกก็เพียงพอสำหรับวิตามินซีตลอดวัน ที่สำคัญก็คือ วิตามินบี 6 เป็นวิตามินที่สำคัญสำหรับเส้นประสาท ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ ของภูมิคุ้มกันขยันทำงานวิตามินเอช่วยให้ร่างกายต้านไวรัสหวัด
สับปะรด มีวิตามินครบเกือบทุกชนิด ยกเว้นวิตามินอีและไบโอติน ที่สำคัญคือมีวิตามินซีและเอนไซม์สูง โดยเฉพาะเอนไซม์ Bromelain จะช่วยให้เลือดจางลงและยับยั้งการอักเสบ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
แตงโม เห็นแตงโมสีแดงๆ อย่างนี้เถอะ มันเต็มไปด้วยวิตามินซีและสังกะสี ซึ่งจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันและระบบกำจัดสารพิษของร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้ โปรวิตามินเอยังช่วยปกป้องเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งเป็นตัวขวางกั้นเชื้อโรคตามธรรมชาติ หากเซลล์เนื้อเยื่อเกี่ยวพันของเราทำงานขยันขันแข็ง เชื้อไวรัสและแบคทีเรีย หรือเชื้อโรคอื่นๆ ก็ไม่สามารถเข้าไปฝังตัวในร่างกายคุณได้ ที่สำคัญก็คือไลโคปีนสีแดงๆ ในแตงโมยังเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนต์และเป็นตัวดักจับอนุมูลอิสระอีกด้วย
ส้ม แค่ส้มหนึ่งผลก็ให้วิตามินซีแก่ความต้องการของร่างกายทั้งวัน นอกจากนี้ ส้มยังเต็มไปด้วยแคโรทีนและโพแทสเซียมซึ่งจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงและป้องกันการติดเชื้อไวรัส

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

มิตรภาพ

การที่เราได้รู้จักใครสักคน... >>>…ก่อให้เกิด “มิตรภาพที่งดงาม” การที่เราจะชอบใครสักคน.. >>>…ก่อให้เกิด “มิตรภาพแห่งความประทับใจ” การที่เราจะประทับใจใครสักคน.. >>>…ก่อให้เกิด “มิตรภาพที่แสนหวาน” การที่เราจะรักใครสักคน.... >>>…ก่อให้เกิด “มิตรภาพระหว่างหัวใจ” การสร้างมิตรภาพนั้นง่าย... แต่การจะรักษามิตรภาพให้คงอยู่ต่อไปนาน ๆ นั้น.. เป็นการกระทำที่ทำได้ยากอย่างยิ่ง... รู้จักคนมากหน้าหลายตา... เป็นร้อยเป็นพันคน.. ก็ยังถือว่า...มิตรภาพยังน้อยอยู่.. แต่การรู้จักใครสักคน.. อย่างจริงใจ..และมั่นคง.. แม้จะมีเพียงไม่กี่คน.. ก็ได้ชื่อว่า...มีมิตรภาพอย่างแท้จริง... ในทางกลับกัน.. การมีมิตรภาพเป็นพัน..เป็นหมื่นคน.. >>>…ชื่อว่า..น้อย..ก็จริง... >>>…แต่การสร้างศัตรูแม้เพียงคนเดียว.. >>>…ก็ถือว่า..มาก..แล้ว.. คนที่รัก...คนที่ชอบ... แม้จะมีมากเพียงใด... ขอให้รักษามิตรภาพเหล่านั้นไว้..ในจริงใจของคน ๆ นั้น.. แม้เพียงคนเดียว...ด้วยความจริงใจ.. >>>…มิตรภาพ ..คือ..ความงดงามในจิตใจ..นั้น >>>…ก็ถือว่า...เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด..ยิ่งใหญ่ที่สุด.. >>>…มากกว่า..การสร้างศัตรูแม้เพียงคนเดียว... คนที่รัก.. อาจกลับกลายเป็นศัตรูได้...เมื่อทำผิดใจ.. คนที่เราไม่รัก... อาจกลับกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดก็เป็นได้...เมื่อให้อภัย... จงพยายามรักษามิตรภาพที่มีอยู่... และจงสร้างมิตรภาพใหม่..ในศัตรู.. >>>…โดยการให้ความจริงใจ...เชื่อใจ...ให้อภัย..รักษาน้ำใจ.. >>>…ให้คงอยู่กับทุก ๆ คน..อย่างจริงใจ..

คนที่เป็นเพื่อน

> > + + คน ที่เป็น เพื่อน+++++> >> > คอยเตือน ยามเพื่อนพลั้ง> > คอยฟัง ยามเพื่อนขอ> > คอยรอ ยามเพื่อนสาย> > คอยพาย ยามเพื่อนพัก> > คอยทัก ยามเพื่อนทุกข์> > คอยปลุก ยามเพื่อนท้อ> > คอยง้อ ยามเพื่อนงอน> > คอยสอน ยามเพื่อนผิด> > คอยสะกิด ยามเพื่อนเผลอ> > คอยเจอ ยามเพื่อนหา> > คอยลา ยามเพื่อนกลับ> > คอยปรับ ยามเพื่อนเปลี่ยน> > คอยเรียน ยามเพื่อนเที่ยว> > คอยเคี่ยว ยามเพื่อนเล่น> > คอยเย็น ยามเพื่อนร้อน> > คอยหอน ยามเพื่อนเห่า> > คอยเฝ้า ยามเพื่อนฟุบ> > คอยอุบ ยามเพื่อนปิด> > คอยคิด ยามเพื่อนถาม> > คอยปราม ยามเพื่อนหลง> > คอยปลง ยามเพื่อนแกล้ง> > คอยแบ่ง ยามเพื่อนหมด> > คอยอด ยามเพื่อนทาน> > คอยคาน ยามเพื่อนล้ม> > คอยชม ยามเพื่อนชนะ> > คอยสละ ยามเพื่อนชอบ> > ส่งให้คนที่คุณคิดว่าเค้าเป็น... ' เพื่อน'> > และอย่าลืมส่งกลับให้กับ ' เพื่อน' คนที่ส่งมา> > ให้คุณ เพื่อนที่รักเราหาไม่ง่ายเลย ถ้าเพื่อน> > ๆ คนไหนมีแล้ว จงรักษามันไว้ให้ดีดี รักกันไว้> > ให้มาก ๆ ไม่มีอีกแล้วถ้าเราเสียเพื่อนที่ดีไป> > เพราะ แค่เหตุผล โง่โง่> >

ลานเบียร์หน้าcentral world

Singha
4/11/2008 boy peacemaker
7/11/2008 fahrenheit
19/11/2008 dome+nologo
25/11/2008 bodyslam
26/11/2008 da endorphine
4/12/2008 nuvo
9/12/2008 pex+aof+ice
11/12/2008 zeal
16/12/2008 potato
17/12/2008 nui ampol
19/12/2008 groove rider
23/12/2008 j-jetrin
25/12/2008 clash
30/12/2008 พงษ์พัฒน์
31/12/2008 silly fools + zealTiger
5/11 flure
12/11 Modern dog
24/11 apartment kunpa
2/12 4เต่าเธอ1
1/12 slur
17/12 kai-jo
25/12 Crescendo
31/12 scrubb

Heineken
7/11 Moderndog & Noi
20/11 รัดเกล้า & เบน
28/11 scrubb & flure
6/12 bee&nui peach band
12/12 slot machine & sqweez animal
16/12 ETC & Kim
24/12 LuLa & Calories Blah Blah
3/1 T-Bone & Peter
6/1 Flure & Ben
13/1 Slot Machine & Da Endorphin

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

จริงหรือไม่

1.
กิน หวาน มากทำให้ผิวเหี่ยว จริงหรือ

เฉลย
จริง เพราะ เมื่อร่างกายมีน้ำตาล อยู่ ในกระแสเลือดมากเกินไป มันจะไปเกาะติดกับเส้นใยโปรตีนที่อยู่ระหว่างเซลล์ ผิว ทำ ให้เกิดภาวะผิวเครียดขึ้น และนำไปสู่อาการแก่ก่อนวัย ผิวหยาบกร้าน และ เหี่ยวย่น ในที่สุด
2.
การยืนเอาปลาย นิ้ว มือแตะปลายนิ้วเท้าจะทำให้ผิวหน้าดูสดใส จริงหรือ

เฉลย
จริง โดยการยืนเอาปลายนิ้วมือแตะ ปลาย นิ้วเท้า ก้มตัวต่ำๆค้างไว้นับ 1-30 แล้วค่อยๆ ยืนขึ้นจะทำให้โลหิต บริเวณหนังศีรษะ และใบหน้าหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลกระทบให้ผิวหน้าดูสดใส ขึ้น
3.
เอาน้ำแข็งถูหน้า ก่อนนอนจะทำให้หายมันได้ จริงหรือ

เฉลย
ไม่จริง แต่แก้ปัญหาหน้ามันได้โดยการ ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาหน้าให้ทั่วใบหน้า ทาแล้วไม่ต้องล้างออก น้ำเมือกจะ แห้งไปเองภายใน ๕ - ๑๐ นาที ทำก่อนนอน แค่นี่หน้าก็จะ หาย
4.
การสวมเสื้อผ้า หนาๆ เพื่อให้เหงื่อออกเยอะๆ จะทำให้ผอมเร็วจริงหรือ

เฉลย
ไม่จริง การที่เหงื่อออกเยอะคือ ภาวะ ที่ ร่างกายโดนความร้อนแล้วระบายความร้อนออกมา ไม่ใช่การเผาผลาญไขมันออกมา เพราะ ฉะนั้นพอเราดื่มน้ำเข้าไป น้ำหนักก็จะเท่า เดิม
5.
คนผิวแห้งมีโอกาส เกิดริ้วรอยกว่าคนผิวมัน จริงหรือ

เฉลย
จริง เพราะคนผิวแห้งขาด ซีบัม หรือ สารไขมัน ทำให้กลไกลการปกป้องตนเองของผิวหนังทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะ ฉะนั้นคนผิวแห้งควรดูแล และทาครีมบำรุงเพื่อความชุ่มชื่นแก่ผิวพิเศษกว่าคนผิว มัน
6.
การฝึกกลั้นหายใจ สามารถชะลอหน้าแก่ก่อนวัยได้ จริงหรือ

เฉลย
จริง โดยการหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ จนสุดลม แล้วหายใจเข้าทางจมูกอย่างช้าๆ ให้เต็มปอด กลั้นไว้ระยะหนึ่ง แล้วจึง หายใจออกอย่างช้าๆ ทำแบบนี้วันละ 2 ครั้งๆ ละ 20 นาที จะช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัย และรอยคล้ำ ได้
7.
การ ร้องไห้ช่วยลดความอ้วนได้ จริงหรือ

เฉลย
ไม่จริง แต่การหัวเราะต่างหากที่ช่วย เผา ผลาญแคลอรีให้หมดไปได้ดีกว่าอยู่เฉยๆ ได้มากถึง 20% ซึ่งหากได้หัวเราะวัน ละสัก 10 -15 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานลงได้มาก ถึง 50 แคลอรี
8.
กาวตราช้างใช้ รักษาส้นเท้าแตกได้ จริงหรือ

เฉลย
จริง เพราะ เมื่อปิดหนังที่แตกด้วย กาวตราช้าง สิ่งสกปรกจะเข้าไปในรอยแตกไม่ได้ ผิวจะไม่ ถูกรบกวน จึงมีการซ่อม แซม ตนเองขึ้นมา มีการสร้างเซลล์ใหม่ และผลัดเซลล์เก่าออก กาวช้างก็จะหลุดออก ไป แต่ ห้ามใช้กับคนที่แพ้กาวตราช้าง
9.
การ เต้น รำทำให้ผิวสวยได้ จริงหรือ

เฉลย
จริง เพราะ การเต้นรำเพียงวัน ละ 20 นาที ช่วยเผาผลาญแคลอรี กระตุ้นระบบการหายใจ และระบบหมุนเวียนโลหิต ทำ ให้เลือดลมเดินทั่วผิว ทำให้ผิวสวยมีสุขภาพ ดี
10.
การใส่ กระโปรงสั้นในห้องแอร์เป็นประจำทำให้ขาใหญ่ได้ จริง หรือ

เฉลย
จริง เพราะ ช่วงขาส่วนที่อยู่ นอกกระโปรงจะเกิดการสะสมไขมันเป็นพิเศษ เพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยเฉพาะ เมื่อ ผิวหนังเจอความหนาวเย็น ทำให้เกิดเซลลูไลท์= A

ความรักของฉัน

ฉันเชื่อว่าทุกๆคนก้ต้องเคยมีความรัก และต่างคนต่างก้บอกว่า ความรักของตัวเองนั้นพิเสดเกินใคร แต่หารู้มั้ยว่า ความรักของฉันก้พิเสดและสวยงามไม่แพ้ใครๆเหมือนกันน้า ถึงแม้ว่าวันนี้ คนที่ฉันรักมากที่สุดเค้าจะไม่กลับมาเป็นแฟนกับฉันแล้ว แต่ฉันก้รักเค้ามากเกินกว่าใครๆ
จะมีใครมั้ยน้า....ที่จะมาอยู่กับฉันเปนเวลานานเกือบ 3 ปี เลยนะ
จะมีใครมั้ย....ที่จะเข้าใจฉัน และรู้เรื่องของฉันไปซะทุกเรื่อง โดยที่ฉันไม่ต้องเอ่ยปาก
จะมีใครมั้ย....ที่จะดูแลฉันตอนฉันไม่สบาย และเค้าก้เปนคนเดียวที่เอาทิฟฟี่ให้ฉันกิน จากวันนั้นถึงวันนี้
จะมีใครมั้ย....ที่จะมาคอยปลอบใจฉันเวลาที่ฉันเสียจาย
จะมีใครมั้ย....ที่จะสอนพาสาอังกิดฉันทุกครั้งที่สอบ แต่ว่าฉันก้ยัง ...ตก...
จะมีใครมั้ย....ที่จะตัดเล็บให้ฉันบ่อยเกินกว่าคราย
จะมีใครมั้ย....ที่จะรู้ว่าฉันอ้วนมากแค่ไหน
จะมีใครมั้ย....ที่จะอดทนความงี่เง่าของฉันได้
จะมีใครมั้ย....ที่จะทะเลาะกับฉันบ่อยๆๆเกือบทุกวันแหนะ
จะมีใครมั้ย....ที่จะมาอยู่กับฉันแล้วฉันมีความสุขมากๆ
จะมีใครมั้ย....ที่จะรู้ใจว่าฉันชอบกินอะไร และเค้าก้จะคอยป้อนฉันด้วย
จะมีใครมั้ย....ที่มานั่งเรียนพิเสดกับฉันแล้วรู้สึกอบอุ่นเกินคราย
จะมีใครมั้ย....ที่จะรู้ว่าฉันแยกแฟกเตอร์ไม่เปน
จะมีใครมั้ย....ที่ฉันไปเที่ยวด้วยแล้วรู้สึกสบายใจมากกว่าคราย
จะมีใครมั้ย....ที่ไปถ่ายรูปคู่กับฉันแล้วฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก
จะมีใครมั้ย....ที่จะจับมือฉันทุกครั้งเวลาที่เดินด้วยกัน
จะมีใครมั้ย....ที่จะมากอดฉันไม่ว่าเวลาไหนๆ
จะมีใครมั้ย....ที่จะเอาชื่อของเค้าและฉันมาต่อด้วยกันได้อย่างไพเราะ
จะมีใครมั้ย....ที่ฉันใส่นาฬิกาให้เค้าแล้วฉันมือสั่น
จะมีใครมั้ย.....ที่ทำให้ฉันคิดถึง
จะมีใครมั้ย.....ที่ทำให้ฉันร้องไห้ได้มากที่สุด
แล้วจะมีใครมั้ยหละ....ที่จะมาเรียกฉันว่า “สุดที่รัก”
ทั้งหมดนี้มันมีนะ มีคนเคยทำให้ฉันจิงๆๆๆ ฉันคงเปนคนที่โชคดีกว่าใครที่ไหนๆๆ ฉันเชื่อว่าเค้าก้ต้องรักฉันมากเหมือนกันแหละ(มั้ง) แต่แค่เวลามันเปี่ยนคนเราก้ต้องมีการเปี่ยนแปลง ตอนแรกฉันก้ไม่เข้าใจนะว่าทำไมเค้าต้องจากฉันไป แต่การที่เค้าไปนั้น เค้าก้สอนให้เรารู้จักอดทนนะ อดทนที่จะชนะใจตัวเอง และเค้าก้สอนให้ฉันรู้จักกับการ “รอ” ถึงแม้ว่าการรอนั้น สุดท้าย มันจะไม่ได้เปนดั่งที่ใจเราหวัง แต่อย่างน้อย เราก้รู้สึกได้ว่า สิ่งที่เรารอนั้นมีค่ามากแค่ไหน ถึงตอนนี้มันก้เปนครั้งแรกที่ฉันสามารถพูดถึงคนที่รักมากที่สุดได้อย่างเต็มปากโดยที่ฉันไม่ต้องร้องไห้ (มั้ง) ยังไงเค้าก้ยังเปนคนที่สำคันและพิเสดมากสำหรับฉัน


รู้ไหม ทุกครั้งที่ฉันนั้นมีเรื่องหนักหัวใจ เรื่องที่ไม่สามารถจะไปปรึกษาใคร ฉันจะคิดถึงใครก่อนและรู้ไหม ไม่ว่าฉันนั้นจะมีความสุขเท่าไรไม่ว่าชีวิตฉันจะไปอยู่จุดไหน ฉันจะคิดถึงใครก่อนเธอคนเดียวที่ฉันจะรออยู่ เฝ้ารอด้วยใจเว้าวอนก็คือเธอคนเดียว และจะมีเพียงคนเดียวแน่นอนที่ฉันจะรัก ที่จะคิดถึง ที่จะยังคงซึ่งความเข้าใจ และยกให้เธอได้เป็นที่หนึ่ง ทุกๆอย่าง อยากให้เธอรู้ ไม่ว่าเมื่อไร ไม่ว่าเรานั้นต้องไกลแสนไกล แต่ว่าในหัวใจใกล้กันอยู่จึงขอมอบเพลงนี้เพื่อให้เธอรับรู้ ฉันจะรอเธอเป็นคู่ และจะเฝ้ารออยู่ชั่วชีวิตถึงแม้ จากนี้เราจะต้องอยู่ห่างแสนไกลและยังไม่รู้จะเจอกันอีกเมื่อไร แต่ฉันจะคิดถึงเธอก่อน


*** ความรักของเรามันจะยาวนานแค่ไหนอ่า เวลาไม่ใช่เครื่องพิสูจน์หรอกนะ ไม่ว่าจะ3วัน 3เดือน หรือ 3 ปี หรือนานแค่ไหน ถ้าใจของเรา2คนไม่มั่นคง แล้วความรักมันจะมีค่าอะไร ใช่มั้ยหละ หากมีครายคนนึงที่หวั่นไหว่ต่อผู้คนที่อยู่รอบข้างที่เข้ามามากมาย ความรักของเราที่ใช้เวลาสร้างมาไม่ว่าจะนานแสนนานแค่ไหนก้ต้องจบลง เหลือเปนเพียงแค่ ความทรงจำที่ดีของอีกคนเท่านั้นเอง***............MY SWEETIES

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

GIVE CONCERT!!!


http://www.radnet.fm/ (แรดเน็ท ดอทเอฟเอ็ม) ร่วมกับ ชมรมค่ายอาสาพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัด concert ดีๆ เพื่อหารายได้เพื่อสร้างอาคารเรียน ให้น้องๆ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ในคอนเสิรต์ที่ชื่อว่า "Give Concert คอนเสิร์ตครั้งนี้ : พี่...ให้น้อง" งานนี้มีศิลปินใจบุญมาร่วมเพียงนำโดย




    • กรูฟ ไรเดอร์ส

    • ลูลา

    • สครับ

    • อพาร์ทเม้นท์ คุณป้า

    • ฟรายเดย์

    • แถมมี guest เตรียมเซอร์ไฟรส์บนเวทีอีกเพียบ

โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้ จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2551 ณ สนามฮ็อกกี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ประตูเปิดเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป


เริ่มจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ ที่ร้านน้องท่าพระจันทร์, ร้านดีเจสยาม, และร้านหนังสือเฮียสง่า ม.เกษตรฯ(บาร์ใหม่) บัตรราคาเดียว 300 บาท ใครอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำบุญส่งท้าย ปลายปี ก็ไปสนุกด้วยกันนะค่ะ



โทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 080-4473330

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สาเหตุของการมีพุงแต่ไม่ใช่เพราะไขมัน


ทราบหรือไม่ว่า การมีพุงอาจจะไม่ได้เกิดจากไขมันก็ได้ วันนี้มีคำตอบมาฝากกันค่ะ....
สาเหตุของพุงป่องไม่ใช่จากการรับประทานเพียงอย่างเดียว และคนพุงป่องก็ไม่ได้แปลว่าอ้วนด้วย แต่อาจเป็นเพียงอาการบวมน้ำเท่านั้น


1. การแพ้อาหาร
บางครั้งอาการท้องบวมอาจเกิดจากอาการระคายเคืองหรือการติดเชื้อของระบบย่อยอาหารในช่องท้อง หรืออาจรวมถึงการรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้บวมน้ำและยังรวมไปถึงการมีรอบเดือนด้วย แต่ถ้ารู้สึกว่าหน้าท้องบวมขึ้นผิดปกติหลัง ทานอาหารบางชนิด ให้สันนิษฐานได้ว่าน่าจะมีอาการแพ้อาหารเข้าให้แล้ว จากสถิติพบว่าอาหารจำพวกแป้งและนมมีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้และบวมมากที่สุด


2.อาหารลดน้ำหนัก
คนที่ชอบหวังพึ่งอาหารลดน้ำหนักจำพวกโลว์-แฟ้ต หรือแฟ้ต-ฟรีมักจะมีปัญหาพุงป่อง เนื่องจากคิดว่ามันเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำ จึงสามารถกินมากกว่าปกติ อาหารพวกนี้อาจมีพลังงานน้อยกว่าปกติ แต่มันก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้น ทางที่ดีหันมารับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นจะดีกว่า รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีเอนไซม์ช่วยย่อย อาทิ น้ำมะนาว น้ำส้มสายชูสกัดจากแอ๊ปเปิ้ล หรือผักสดต่าง ๆ


3. กินช้า ๆ แต่บ่อย ๆ
ค่อย ๆ เคี้ยวอาหารช้า ๆ เพื่อให้ประสาทรับรู้ค่อย ๆ รู้สึกอิ่ม และในแต่ละมื้ออย่ากินให้เยอะจนอิ่มแน่นท้อง ควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อย่อย ๆ แต่อย่ากินขนมจุบจิบจำพวกขนมนมเนยต่าง ๆ เลือกกินผลไม้หรือธัญพืช เมื่อหิวระหว่างมื้อจะดีกว่า


4.ขจัดสารพิษ
แอลกอฮอล์ คาเฟอีน และนิโคตินในบุหรี่มีผลร้ายต่อระบบเผาผลาญอาหารของร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายบวมน้ำและยังก่อให้เกิดเซลลูไลท์อีกด้วย ดังนั้นเมื่อรู้เหตุดังนี้แล้วก็แค่ลดละเลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนต่าง ๆ และเลิกสูบบุหรี่ไปซะด้วยเลยในเวลาเดียวกัน


5.หัดกินสักนิด
ในกระเพาะจะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร แต่บางครั้งแบคทีเรียเหล่านี้ก็อาจถูกกำจัดไปจากสภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยหรือการรับประทานอาหารบางชนิด แนะนำให้รับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติเป็นประจำเพื่อปรับสมดุลแบคทีเรียกลุ่มที่เป็นประโยชน์ จะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและช่วยให้หน้าท้องบวมน้อยลงด้วย


6. ดื่มน้ำให้มาก
อาการบวมน้ำนี้ ควรดื่มน้ำให้ได้อย่าง ต่ำ 8 แก้วต่อวัน แต่วิธีการดื่มนั้นอย่าดื่มหมดแก้วในคราวเดียวควรจิบ น้ำบ่อย ๆ เรื่อย ๆ เพราะการที่ดื่มน้ำแก้วใหญ่ในคราวเดียว จะทำให้กระเพาะปัสสาวะขยายใหญ่ ถ้าจะให้ดีลองเลือกดื่มชาสมุนไพร อาทิ ชาเป็ปเปอร์มินต์ หรือชาคาโมไมล์แทนน้ำเปล่า โดยเฉพาะการดื่มในช่วงหลังอาหาร จะช่วยให้อาหารที่รับประทานเข้าไป ย่อยได้ดีขึ้นด้วย


7. บริหารกล้ามเนื้อหัวใจ
ผู้หญิงหลายคนเชื่อว่าการซิตอัพทุกวันจะช่วยให้หน้าท้องแบนเรียบแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย แม้ว่าการซิตอัพจะช่วยสร้างกล้ามท้อง แต่ถ้าร่างกายนั้นยังปกคลุมด้วยชั้นไขมัน หน้าท้องเรียบตึงก็จะไม่มีวันโผล่มาให้เห็นหรอก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างต่ำ 3 วันต่อสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป บวกกับการซิตอัพ คราวนี้รับรองสวยตึงแน่นอน


8. หายใจลึก ๆ
เมื่อหายใจเข้าออกแบบลึก ๆ จะช่วยให้ร่างกายจะคลายความตึงเครียดออกมา รวมทั้งยังช่วยในการเติมอ็อกชิเจนและพลังชีวิตให้ร่างกายด้วย ทุกครั้งที่หายใจให้พยายามหายใจให้ลึกเข้าไปยังท้อง อย่าหยุดเพียงแค่เก็บลมไว้ในช่องอกการหายใจเข้าออกจากท้องเป็นนิสัยจะช่วยกระชับให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงมากยิ่งขึ้น


9. นวดกระชับหน้าท้อง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการนวด ช่วยได้ จริงๆ เนื่องจากการนวดท้องนั้น ช่วยไล่ลมที่กักเก็บไว้ในช่องท้องได้ และช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นด้วย ณ วิธีการนวดก็ไม่ยาก เพียงวางฝ่ามือลงบนท้องแล้วนวดวนตามเข็มนาฬิกา ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น อาจใช้ครีมจำพวกกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องร่วมด้วย ก็ได้


ถ้าอยากมีหน้าท้องที่แบนเรียบ ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้.

เทคนิคภาษาอังกฤษ

เทคนิคภาษาอังกฤษ

ในบางครั้งที่อ่านบทความภาษาอังกฤษ เราอาจพบกับคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เราไม่ทราบความหมาย พจนานุกรม (Dictionary) เป็นสิ่งที่จะช่วยเราได้ดีที่สุดและทำให้เราได้เรียนรู้คำใหม่นั้นๆ ในการเปิดดูความหมายของคำศัพท์ ในพจนานุกรม เราควรดูที่มาของคำศัพท์นั้นประกอบกับคำแปลด้วย เพราะคำศัพท์ใหม่คำอื่นๆ อาจประกอบด้วย รากศัพท์หรือที่มาของคำศัพท์เราจำได้จากคำศัพท์เก่าที่เราเคยเปิดพจนานุกรมดูแล้ว ทำให้เราพอจะเดาความหมายได้คร่าวๆ หรืออาจจะถูกต้องเลยก็ได้ นอกจากนั้นเวลาเปิดพจนานุกรมเราควรดูการออกเสียงของคำศัพท์นั้นๆ ด้วย รวมถึงการเน้นเสียง (Stress) ที่ถูกต้อง เพราะมีบ่อยครั้งที่ลักษณะการออกเสียงไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดไว้ ถ้าเราไม่มีพจนานุกรม เราก็คงต้องเดาความหมายคำศัพท์คำใหม่นั้นๆ แต่เป็นการเดาอย่างมีหลักการ ซึ่งเราแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนใหญ่ๆ ได้แก่

1. การเดาความหมายจากข้อความแวดล้อม (Context clues)
ตัวอย่างเช่น Elvis Presley was afraid of being assassinated, and he wore a bullet-proof vest, but he couldn't stay away from the crowds who loved him. จากประโยคข้างต้น ความหมายของคำว่า assassinate น่าจะหมายถึง ฆ่า เพราะข้อความที่ตามมาบอกว่า เขาใส่เสื้อเกราะกันกระสุน ดังนั้นสิ่งที่ Elvis Presley กลัวก็น่าจะหมายถึงการถูกฆ่าหรือจากตัวอย่างเช่น His sister is so indolent. She sleeps late and never does chores unless yelled at. คำว่า indolent น่าจะหมายความว่า ขี้เกียจ เพราะจากประโยคที่ตามมาว่าเธอหลับดึกและไม่ทำงานบ้าน นอกจากจะถูกตะโกนสั่ง

2. การเดาความหมายโดยวิธีแยกรากศัพท์
เราอาจแยกส่วนประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ยาวๆ ออกเป็น Prefix, Root และ/หรือ Suffix โดยที่ Prefix หมายถึง คำที่วางหน้าส่วน Root (รากศัพท์) แล้วทำให้เกิดความหมายหรือทำให้ความหมายของ Root นั้นเปลี่ยนไป เช่น
Re- = again :
Reuse = use again
Reload = load again
Reheat = heat again
Inter- = between :
Interact = act in between
En- or Em- + adj. = to make :
Ensure = to make sure
Enlarge = to make large
En- or Em- + n. or v. = to put into or on :
Endanger = to put into danger
Empanel = to put in a panel
ส่วน Root หรือรากศัพท์ เป็นส่วนที่เราต้องเพ่งความสนใจเป็นพิเศษเพราะมันเป็นส่วนที่ให้ความหมายหลัก แต่ก็เป็นส่วนที่เราต้องจำมากที่สุดด้วย เช่น
aqua = water :
Aquarium = an artificial pond for water creatures
fact = make,do :
Manufacture = to make (goods) using machinery
ject = throw :
Trajectory = a path of something thrown in the air
vert = turn,change :
Convert = to change from one form to another
port = carry :
Portable = that can be easily carried
สุดท้ายก็เป็น Suffix ซึ่งเป็นส่วนที่บอกถึงหน้าที่ (Part of speech) ของคำนั้นๆ เช่น
Portable (adjective) = that can be easily carried
Portably (adverb) = in the way that can be easily carried
Portage (noun) = (cost of) carrying goods ; carrying boats
Portative (adjective) = of carrying ; able to be carried

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Buffet Cake @ Cafe Buongiorno


สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานเค้กทั้งหลาย วันนี้เราอยากจะขอแนะนำร้านเค้กร้านใหม่ หรือถ้าบางคนเคยไปแล้ว ก้ช่วยมาเม้นท์กันนิดนึงนะค่ะ ว่ามีความคิดเห็นว่าไงกันบ้าง

ร้านนี้ชื่อว่า Cafe Buongiorno อยู่ถนนสุขุมวิท ซอย 33 เข้าไปในซอยสักพัก ก้จะเจอร้านเค้กร้านนี้แล้วค่ะ อันดับแรกก่อนที่จะพูดถึงเค้ก ขอพูดถึงบรรยากาศภายในร้านก่อนนะค่ะ บรรยากาศในร้านน่านั่งมาก ให้ความเป็นส่วนตัว เหมาะแก่การสังสรรค์ หรือว่านั่งพักผ่อน ทางร้านได้จัดแต่งร้านด้วยบรรกาศสไตล์ร่มรื่น และมีหลายแบบ หลายโซนให้ลูกค้าได้เลือกกันค่ะ ส่วนเรื่องรสชาติของเค้ก ไม่ต้องพูดถึงเพราะทางร้านได้การันตีความอร่อยด้วยดารา อย่าง "แอฟ ทักษอร" ที่โปรดปรานร้านนี้เป็นอย่างมาก และได้พาไปชิมในรายการ "ราตรีสโมสร" มาแล้ว













Cafe Buongiorno มีเค้กหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นเค้กมะนาว, บลูเบอรี่ขีสเค้ก, สตอเบอรี่ชีสเค้ก, สตอเบอรี่ชอร์ทเค้ก, และอื่นๆอีกมากมาย หรือจะเลือกรับประมานพร้อมกับน้ำชา ก็ดูเข้ากันม๊ากมากเลยค่ะ เพื่อนๆคนไหนที่ชื่นชอบการทานเค้ก ก้ไม่น่าที่จะพลาดไปชิมที่ร้านนี้นะค่ะ ราคาต่อหัวก็ไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ แค่คนละ 125 บาท รวม service charge อีก 7% ก็สามารถอิ่มได้แล้วค่ะ


ยังไงก็อยากจะฝากร้านนี้ ไว้ในอ้อมอก อ้อมใจของเพื่อนๆที่ชอบทานเค้กด้วยก็แล้วกันนะค่ะ

วันนี้มีรูปบรรยากาศภายในร้าน และเค้กของทาวงร้าน Cafe Buongiorno มาฝากเรียกน้ำย่อยกันด้วยค่ะ


เกือบลืมบอกไปค่ะ ร้านนี้เค้าเปิดให้บริการทุกวัน ปิดทำการวันจันทร์วันเดียวนะค่ะ

เวลา 10.00-23.00 ถ้าสนใจจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ 0-2662-3471 ค่ะ